Viscosity Index (VI) ในน้ำมันเครื่องคืออะไร? มีผลต่อการไหลลื่นและการปกป้องเครื่องยนต์อย่างไร? (อัปเดต 2025)
คุณรู้หรือไม่ว่า... น้ำมันเครื่องที่ดูเหมือนจะ “เบอร์เดียวกัน” อาจมีประสิทธิภาพการไหลลื่นและปกป้องเครื่องต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เบื้องหลังความต่างนี้คือ “ค่าดัชนีความหนืด” หรือที่เรียกว่า Viscosity Index (VI)
- เข้าใจว่า Viscosity Index (VI) คืออะไร?
- ทำไม VI สูงจึงดีกว่าสำหรับเครื่องยนต์?
- วิธีเลือกน้ำมันเครื่องจากค่าดัชนีความหนืด
🔍 Viscosity Index (VI) คืออะไร?
VI คือค่าที่บอกว่า น้ำมันเครื่องจะเปลี่ยนความหนืดมากน้อยแค่ไหน เมื่อเจออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง → ยิ่ง VI สูง = ยิ่ง “คงความหนืดไว้ได้ดี” → น้ำมันไม่ข้นตอนเย็น และไม่ใสจนเกินไปตอนร้อน
📌 ตัวอย่าง:
- น้ำมันเครื่อง VI ต่ำ → ไหลยากตอนเย็น และบางเกินไปตอนเครื่องร้อนจัด
- น้ำมันเครื่อง VI สูง → ไหลลื่นตั้งแต่สตาร์ท + ปกป้องได้แม้ขณะทำงานหนัก
📊 ตารางเปรียบเทียบค่า VI
| ช่วงค่า VI | ความหมาย | เหมาะกับ |
|---|---|---|
| ต่ำกว่า 100 | เสถียรภาพต่ำ | น้ำมันธรรมดา, เกรดต่ำ |
| 100 – 150 | ระดับมาตรฐาน | น้ำมัน Semi / Fully Synthetic ทั่วไป |
| 150 ขึ้นไป | VI สูงมาก | น้ำมัน PAO, Ester, พรีเมียม |
🧪 อะไรที่ช่วยให้ VI สูง?
- การใช้ Base Oil คุณภาพสูง เช่น Group IV (PAO) หรือ V (Ester)
- การเติม Polymer VI Improver (สารปรับดัชนีความหนืด)
🔧 น้ำมันเครื่อง VI สูง (แนะนำ)
- Mobil 1 Extended Performance – VI ~170+
- LIQUI MOLY Synthoil High Tech – ใช้ Base Oil PAO
- Amsoil Signature Series – VI สูงมาก เหมาะกับการใช้งานหนัก
คำถามที่พบบ่อย
1. น้ำมันเบอร์เดียวกัน จะมี VI เท่ากันไหม?
ไม่ครับ → อยู่ที่ Base Oil และสูตรของแบรนด์นั้น ๆ
2. รถบ้านจำเป็นต้องใช้ VI สูงไหม?
ถ้าอยากได้ความลื่นนานขึ้น + ปกป้องช่วงเครื่องร้อนจัด → ควรใช้
อ่านต่อ:
สรุปส่งท้าย
แม้น้ำมันจะระบุเบอร์ 5W-30 เหมือนกัน แต่ VI ต่างกัน = ประสิทธิภาพต่างกัน อย่ามองข้ามค่าที่มักซ่อนอยู่ใน Data Sheet นี้ เพราะมันคือหัวใจของการปกป้องเครื่องยนต์ที่แท้จริง
คุณเคยดู VI ในน้ำมันเครื่องที่ใช้ไหม? ลองเปิด Data Sheet แล้วมาคอมเมนต์แชร์กันครับ
0 ความคิดเห็น