น้ำมันเครื่องข้นหรือใส ดีกว่ากัน? เข้าใจเรื่องความหนืดก่อนเลือกใช้ให้เหมาะ (อัปเดต 2025)
เลือกน้ำมันเครื่องควรเลือกข้นไว้ก่อน? บางคนบอกเบอร์สูง ๆ ดีกว่า บางคนบอกเบอร์ใส ๆ วิ่งนิ่มกว่า… ความจริงคืออะไร? แล้วรถของคุณเหมาะกับแบบไหน?
บทความนี้จะช่วยให้คุณ:
- เข้าใจความหนืดของน้ำมันเครื่อง
- เลือกความหนืดให้เหมาะกับเครื่องยนต์
- ดูตารางเทียบความหนืด + แบรนด์แนะนำ
🔍 ความหนืดคืออะไร?
ความหนืด (Viscosity) หมายถึง “ความข้น – ใส” ของน้ำมัน ส่งผลต่อความลื่นในการไหล และความสามารถในการปกป้องเครื่องขณะใช้งาน
น้ำมันเครื่องจะมีค่าเช่น 0W-20, 5W-30, 10W-40 โดยตัวเลข ยิ่งน้อย → ยิ่งบาง ยิ่งมาก → ยิ่งหนืด
📊 ตารางเปรียบเทียบความหนืดน้ำมันเครื่อง
| เบอร์ | ลักษณะ | เหมาะกับ |
|---|---|---|
| 0W-20 | บางมาก | รถใหม่, Eco Car, Hybrid |
| 5W-30 | บางปานกลาง | รถญี่ปุ่นทั่วไป |
| 10W-40 | หนืดปานกลาง | รถเก่า, ใช้งานหนัก |
| 15W-50 | หนืดมาก | รถยุโรป, รถแต่ง, เครื่องแรง |
✅ ข้นหรือใส แบบไหนดีกว่า?
ไม่มีคำตอบตายตัว! เพราะขึ้นอยู่กับ:
- คำแนะนำจากคู่มือรถ
- อายุและสภาพเครื่องยนต์
- สภาพอากาศ (ร้อน / เย็น)
- พฤติกรรมการขับขี่ (ขับเร็ว / บรรทุกหนัก)
หากใช้เบอร์ข้นเกิน: อาจทำให้เครื่องฝืด รอบไม่ขึ้น เร่งอืด
หากใช้เบอร์ใสบางเกิน: เสี่ยงเครื่องร้อนจัด สึกหรอเร็ว
🔧 แบรนด์น้ำมันเครื่องแนะนำตามความหนืด
- บาง (0W-20): Mobil 1, Valvoline SynPower, ENEOS Sustina
- กลาง (5W-30): Shell Helix Ultra, Castrol EDGE, Total Quartz
- หนืด (10W-40+): LIQUI MOLY, PTT Performa, Caltex Havoline
คำถามที่พบบ่อย
1. รถเก่าใช้เบอร์ใสบางได้ไหม?
ไม่แนะนำ เพราะความหนืดต่ำอาจไม่พอหล่อลื่นเครื่องที่สึกหรอแล้ว
2. สามารถเปลี่ยนเบอร์ไปมาได้ไหม?
เปลี่ยนได้ แต่อย่ากระโดดข้ามมาก เช่น จาก 0W-20 ไป 15W-50 ทันที
อ่านต่อ:
“เลือกน้ำมันเครื่องที่ใช่ = ขับลื่น เครื่องเดินนิ่ม ประหยัด และอยู่กับคุณได้นานขึ้น”
สรุปส่งท้าย
ไม่มีน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด แต่มี “น้ำมันที่เหมาะที่สุด” กับรถคุณ เข้าใจเรื่องความหนืดให้ชัด แล้วคุณจะเลือกได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องเดาอีกต่อไป!
แชร์เก็บไว้!
เพราะเรื่องความหนืดน้ำมันเครื่อง สำคัญกว่าที่คุณคิดครับ
เพราะเรื่องความหนืดน้ำมันเครื่อง สำคัญกว่าที่คุณคิดครับ
คุณใช้เบอร์ไหนอยู่? มาแชร์ในคอมเมนต์กันได้เลยครับ 👇
0 ความคิดเห็น